ทำไมเพดานหนี้ของอเมริกาถึงมีความสำคัญ?

Why America's Debt Ceiling Matters?

ระยะหลังมานี้ แทบทุกข่าวเกี่ยวกับสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับเพดานหนี้ เพดานหนี้คืออะไร และเหตุใดจึงต้องเพิ่มเพดานหนี้?

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2460 สหรัฐอเมริกามีกฎหมายกำหนดขีดจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับจำนวนหนี้ทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับอนุญาตให้ถือครองได้ เพดานหนี้ หรือที่เรียกว่าวงเงินหนี้ซึ่งเป็นขีดจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้ของรัฐบาลที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ สามารถออกนโยบายได้ซึ่งถูกกำหนดโดยรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเงินสูงสุดที่รัฐบาลกลางสามารถกู้ยืมได้เพื่อให้เป็นไปตามภาระหน้าที่ที่มีอยู่เดิม และเป็นเงินทุนในการดำเนินงาน เมื่อรัฐบาลกลางใช้จ่ายมากกว่าที่ได้รับ รัฐบาลต้องกู้ยืมเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลสำหรับปีนั้น และทุกปีที่มีการขาดดุลจะเพิ่มหนี้ให้กับประเทศ

การขาดดุลในปัจจุบันส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่สามารถคาดการณ์ได้ดังต่อไปนี้:

  • คนรุ่นเบบี้บูมสูงอายุ
  • ค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น
  • ระบบภาษีที่นำเงินเข้ามาไม่เพียงพอที่จะจ่ายในสิ่งที่รัฐบาลตามที่ได้ สัญญาไว้กับประชาชน

วิกฤตไวรัสโคโรนาได้เร่งความไม่มั่นคงของการเคลื่อนไหวทางการเงินเนื่องจากโรคระบาดส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ

ควรสังเกตว่าเพดานหนี้เป็นกลไกทางกฎหมายเฉพาะของสหรัฐอเมริกา และไม่ใช่ทุกประเทศที่มีขีดจำกัดหนี้สาธารณะดังกล่าว หนี้ของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นภายใต้ประธานาธิบดีทุกคนตั้งแต่ยุคของประธานาธิบดี เฮอร์เบิร์ต คลาร์ก ฮูเวอร์ เพดานหนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เท่า ปัจจุบันเพดานหนี้อยู่ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์

economic activity

ทำไมเพดานหนี้จึงมีความสำคัญ?

จุดประสงค์ของเพดานหนี้ คือ เพื่อให้แน่ใจว่ารัฐสภาควบคุมอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาล และเพื่อให้โอกาสปกติสำหรับนักการเมืองในการอภิปราย และตัดสินใจระดับหนี้ของประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นกลไกในการควบคุม และบริหารวินัยด้านการเงินการคลัง

หากหนี้ถึงขีดจำกัดที่กำหนดโดยเพดานหนี้ กระทรวงการคลังไม่สามารถออกหนี้เพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันได้ สถานการณ์นี้อาจสร้างความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ที่มีอยู่ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ และตลาดการเงิน

เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังมักจะใช้มาตรการเพื่อระงับชั่วคราว หรือปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายของรัฐบาล และขั้นตอนของการบัญชีบางอย่าง ซึ่งเรียกว่า "มาตรการฉุกเฉิน" เพื่อเพิ่มความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว และหากไม่เพิ่ม หรือระงับเพดานหนี้ รัฐบาลอาจไม่มีเงินจ่ายชำระหนี้ทั้งหมดได้ในที่สุด