การซื้อขายที่ประสบความสำเร็จในบัญชีทดลอง และ/หรือผลการทดสอบย้อนหลังที่เป็นบวกอาจเป็นเหตุการณ์สำคัญเพื่อการทำความเข้าใจ และฝึกฝนกลยุทธ์การซื้อขาย อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับประกันความสำเร็จในบัญชีจริงเสมอไป มีสาเหตุหลายข้อที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้รับในเงื่อนไขของการทดสอบย้อนหลังอาจแตกต่างไปจากที่นักเทรดจะได้รับในตลาดที่ใช้เงินจริง ลองพิจารณาเหตุผลเหล่านี้อย่างละเอียด
1. วินัยทางจิตวิทยา
การซื้อขายในบัญชีทดลองไม่จำเป็นต้องมีความเสี่ยงอย่างแท้จริงซึ่งช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อต้องใช้เงินจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการซื้อขายจริง นักเทรดต้องเผชิญกับอารมณ์ที่รุนแรง เช่น ความกลัวการสูญเสีย ความโลภ และความต้องการเอาชัยชนะกลับคืนมาหลังจากเกิดความล้มเหลว เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อกระบวนการตัดสินใจได้สูง แม้ว่ากลยุทธ์จะได้ผลในบัญชีทดลองก็ตาม ภายใต้แรงกดดันจากความเสี่ยงที่แท้จริง นักเทรดมักจะเบี่ยงเบนออกจากกลยุทธ์ ปิดการซื้อขายก่อนเวลา ข้ามขั้นการซื้อขาย หรือทำการซื้อขาย และไม่ใช้กฎต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ผลลัพธ์แย่ลงในที่สุด
2. ความแตกต่างของเงื่อนไขในการซื้อขาย
ในบัญชีทดลอง โดยปกติแล้วคำสั่งซื้อจะถูกดำเนินการทันที และจะแสดงราคาขั้นทันทีเมื่อมีการเปิดการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ในตลาดจริงมีค่าสลิปเพจ (เมื่อมีการดำเนินการคำสั่งซื้อขายในราคาที่แตกต่างจากที่วางแผนไว้) และความล่าช้าเนื่องจากสภาพคล่องและความผันผวน ในขณะเดียวกัน ค่าสเปรด (ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ และราคาขาย) อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด ปัจจัยเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลยุทธ์ที่การเข้า และออกจากตลาดที่แม่นยำนั้นมีความสำคัญ เช่น ในการซื้อขายที่มีความถี่สูง หรือซื้อขายในระยะสั้นเพื่อเก็งกำไร ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการเผยแพร่ข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ ค่าสเปรดมักจะกว้างขึ้นเนื่องจากสภาพคล่องลดลง ในขณะที่การดำเนินการตามคำสั่งของตลาดมักจะนำไปสู่การคลาดเคลื่อนเนื่องจากสภาพคล่องไม่เพียงพอ และเป็นเรื่องปกติสำหรับช่วงเวลาเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นในเวลาที่มีค่าสวอป (โรลโอเวอร์)
3. ข้อมูลประวัติมีจำกัดในการทดสอบย้อนหลัง
การทดสอบย้อนหลังขึ้นอยู่กับข้อมูลในอดีต แต่ตลาดเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา: ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เหตุการณ์ทางการเมือง และพฤติกรรมทั่วไปของผู้เข้าร่วมตลาดมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในบางสภาวะของตลาดอาจมีประสิทธิผลน้อยลง หรืออาจไม่ทำกำไรในสภาวะอื่น ๆ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์ที่ทำงานได้ดีในตลาดที่สงบอาจไม่ทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ของโรคโควิด การทดสอบย้อนหลัง คือการทดสอบตลาดในอดีตเป็นหลัก และไม่พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
4. การเพิ่มประสิทธิภาพมากเกินไป
นักเทรดหลายรายใช้พารามิเตอร์ที่ “สมบูรณ์แบบ” ที่เหมาะกับข้อมูลในอดีต ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพมากเกินไป ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าารเพิ่มตัวแปรในระบบการซื้อขายที่มากเกินไป (overfitting) กลยุทธ์ที่เคยทำงานได้ดีในอดีตแต่ล้มเหลวในการทดสอบข้อมูลในอนาคต เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาดเฉพาะที่ไม่ทำซ้ำเรียกว่า overfitting
5. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด
โดยทั่วไปแล้ว บัญชีทดลองจะไม่มีข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นได้ในตลาดจริง เช่น การขาดสภาพคล่องสำหรับปริมาณมาก หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่ง ณ จุดใดจุดหนึ่งได้ ในตลาดจริง โครงสร้างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมรายอื่น และผู้เล่นรายใหญ่ (เช่น ผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือกองทุนบริหารความเสี่ยง (Hedge Fund) สามารถจัดการสภาพคล่อง สร้างอุปสรรคด้านราคาเทียม และมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาได้ ทั้งหมดนี้สามารถขัดขวางแผน และทำให้ผลลัพธ์ของกลยุทธ์ที่แสดงในบัญชีทดลองแย่ลง
6. ต้นทุนทางการเงิน
บัญชีทดลองมักจะไม่คำนึงถึงต้นทุนทางการเงินทั้งหมดที่นักเทรดต้องใช้ในในบัญชีจริง ซึ่งรวมถึงค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์ ค่าสเปรด ค่าภาษี ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เป็นไปได้สำหรับข้อมูล หรือสัญญาณ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจสูงอย่างไม่คาดคิดในการซื้อขายจริง ต้นทุนเหล่านี้สามารถลดผลกำไรได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกลยุทธ์เกี่ยวข้องกับการซื้อขายจำนวนมาก
7. ประเมินปัจจัยภายนอกต่ำเกินไป และ “หงส์ดำ” หรือ black swans
เหตุการณ์ภายนอกที่คาดเดาไม่ได้ที่เรียกว่า “หงส์ดำ” สามารถมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายจริง: วิกฤตเศรษฐกิจ ความวุ่นวายทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในกฎระเบียบของตลาด เป็นต้น เหตุการณ์ภายนอกสามารถเปลี่ยนแปลงสภาวะตลาดอย่างกะทันหัน และนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่ได้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ค่อยได้รับการพิจารณาในการทดสอบย้อนหลังเนื่องจากความถี่ และผลกระทบนั้นยากต่อการสร้างแบบจำลอง บัญชีทดลองไม่สามารถสะท้อนผลที่ตามมาของหงส์ดำในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์
ส่วนสำคัญที่สุด
การซื้อขายที่ประสบความสำเร็จในบัญชีทดลอง และผลการทดสอบย้อนหลังที่ดีเป็นตัวบ่งชี้ว่ากลยุทธ์มีศักยภาพ อย่างไรก็ตาม ตลาดจริงไม่เพียงต้องการกลยุทธ์ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี แต่ยังต้องมีความมั่นคงทางจิตใจในระดับสูง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับเงื่อนไข คำนึงถึงต้นทุนทั้งหมด และเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพื่อให้การซื้อขายประสบความสำเร็จในบัญชีจริง นักเทรดจะต้องพิจารณาปัจจัยทั้งหมดที่อธิบายไว้ข้างต้น และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะมาโน้มน้าวนักเทรดซึ่งต้องใช้เวลา ประสบการณ์ และวินัยที่เข้มงวด