Justmarkets | JUST COMFORTABLE TRADING

มาตรฐานทองคำสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์

The Gold Standard in Forex Trading

ตลาดฟอเร็กซ์คืออะไร?

ก่อนที่เราจะพูดถึงมาตรฐานทองคำ เรามาทบทวนแนวคิดของการซื้อขายฟอเร็กซ์กันก่อน การซื้อขายฟอเร็กซ์ หมายถึง การซื้อขายในคู่สกุลเงิน นั่นคือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่ง นักเทรดสามารถทำเงินได้เมื่อราคาตลาดมีความผันผวน ท้ายที่สุดแล้ว นักเทรดจะได้รับกำไรเมื่อซื้อสกุลเงินในอัตราที่ต่ำกว่า และขายสกุลเงินนั้นในอัตราที่สูงกว่า ความผันผวนของตลาดเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายอย่างซึ่งเราสามารถสังเกตได้ดังต่อไปนี้:

  • อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย คือ อัตราที่ธนาคารกลางจัดหาเงินไว้สำหรับใช้จ่าย เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ประเทศนั้น ๆ มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เงินตราต่างประเทศไหลเข้าประเทศซึ่งทำให้ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขึ้น ธนาคารกลางสามารถเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยได้
  • เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ความน่าลงทุนก็ลดลงตามไปด้วย อัตราแลกเปลี่ยนจึงลดลง อย่างไรก็ตาม ความสามารถของธนาคารกลางในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น อัตราการว่างงานสูงซึ่งอัตรานี้ไม่น่าจะเพิ่มขึ้น สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การว่างงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการให้กู้ยืมเพื่อธุรกิจมีราคาแพงขึ้น และการดำเนินงานก็ยากขึ้น

    น่าจะได้เห็นอัตราส่วนลดเพิ่มขึ้นหากประเทศมีอัตราเงินเฟ้อสูง แต่ในขณะเดียวกันอัตราการว่างงานก็สามารถเป็นที่ยอมรับได้

  • ต้นทุนของวัตถุดิบ ทุกประเทศต่างพึ่งพาระดับการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน สินแร่ และอื่น ๆ และประเทศที่มีปริมาณการส่งออกทรัพยากรเหล่านี้ค่อนข้างมากจะได้รับผลกำไรจำนวนมากจากการขายเหล่านี้ เมื่อราคาทรัพยากรเพิ่มขึ้น กำไรของประเทศก็จะมากขึ้น ซึ่งทำให้สกุลเงินของประเทศแข็งค่าขึ้น หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นจนความต้องการทรัพยากรเหล่านี้น้อยลง หรืออุปทานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาของทรัพยากรก็จะตกลงตามนั้น เหตุการณ์ดังกล่าว จัดการกับเศรษฐกิจที่ขึ้นอยู่กับการขายทรัพยากรเหล่านี้ และทำให้มูลค่าของสกุลเงินของประเทศลดลง
  • ปริมาณการส่งออก ปริมาณการส่งออกมักแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของประเทศนั้นมีความน่าสนใจมากแค่ไหน ยิ่งความต้องการสินค้าที่ผลิตในประเทศนั้นสูงขึ้น เงินตราต่างประเทศก็จะยิ่งเข้ามาในประเทศมากขึ้นซึ่งจะทำให้มูลค่าของสกุลเงินของประเทศเพิ่มขึ้น
  • การซื้อขายของผู้เล่นรายใหญ่ ในฟอเร็กซ์มีช่วงเวลาในการซื้อขายฟอเร็กซ์อยู่หลายช่วงซึ่งจะสร้างตลาด 24 ชั่วโมงขึ้น ในแต่ละช่วงเวลาของการซื้อขายสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำงานตามแต่ละช่วงเวลา ธนาคารในยุโรปทำงานในช่วงเวลาการซื้อขายฟอเร็กซ์ของลอนดอน และการซื้อขายของธนาคารเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงเวลานี้ นอกจากนี้ ผู้เล่นรายใหญ่ยังสามารถทำให้ตลาดมีความเคลื่อนไหวได้ด้วยการสร้างอุปสงค์ และอุปทานในระดับสูง
  • สถานการณ์ทางการเมือง สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในกรณีของเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นซึ่งไม่เอื้อประโยชน์ในบางประเทศ อาจมีการเรียกร้องเกิดขึ้นซึ่งจะทำให้การทำงานซับซ้อน และทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลง
  • พันธมิตร และข้อตกลงทางการค้าใหม่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และการแข็งค่าของสกุลเงิน

    สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยังส่งผลกระทบต่อค่าเงินอย่างมาก ผู้นำอาจเข้ามามีอำนาจด้วยแผนการพัฒนาเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน บางครั้งแผนการเหล่านี้อาจประสบความสำเร็จได้ และการตัดสินใจทางการเมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จอาจนำไปสู่การล่มสลายของสกุลเงิน

  • สุขภาพทั่วไปของเศรษฐกิจ บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดจากบรรดาปัจจัยทั้งหมด ความแข็งแกร่งของสกุลเงินของประเทศได้รับอิทธิพลจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ สกุลเงินที่แพงที่สุด และมีการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์มากที่สุด คือ สกุลเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ได้รับการพัฒนามากที่สุด

ดังที่คุณอาจได้อ่านไปแล้ว ตลาดฟอเร็กซ์ในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ในช่วงเวลาที่เกิด ตลาดมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และทองคำก็มีบทบาทสำคัญในตลาดนี้ ดังนั้น ต่อไปนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่มาตรฐานทองคำ

มาตรฐานทองคำคืออะไร?

ในด้านการเงิน มาตรฐานทองคำเป็นระบบการเงินที่มูลค่าของเงินของประเทศเชื่อมโยงโดยตรงกับทองคำในปริมาณคงที่ ตามมาตรฐานทองคำ ประเทศต่าง ๆ จะแลกเปลี่ยนกระดาษเป็นทองคำในอัตราคงที่ และบุคคลทั่วไปก็สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินของตนเป็นทองคำได้เช่นกัน มาตรฐานทองคำถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 แต่ถูกละทิ้งไปจำนวนมากโดยการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ได้รับมอบหมายอำนาจด้านแผนการเงิน

ประวัติศาสตร์ของตลาดฟอเร็กซ์คืออะไร?

แรงผลักดันให้เกิดระบบมาตรฐานทองคำ คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศแถบยุโรป และอเมริกาเหนือ การแบ่งแยกแรงงานนำไปสู่ความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพ และเรียบง่ายที่สุด พวกเขาจึงเริ่มใช้ระบบมาตรฐานทองคำ

ในระดับสากล สถานะของทองคำในฐานะสกุลเงินระหว่างประเทศเพียงสกุลเดียวได้รับการจัดตั้งขึ้นในการประชุมที่กรุงปารีสในปี พ.ศ. 2410

ลักษณะเฉพาะที่สำคัญของระบบสกุลเงินปารีสมีดังต่อไปนี้:

  • ทองคำทำหน้าที่เป็นเงินของโลก
  • ในสมัยนั้น สามารถนำเข้า และส่งออกทองคำได้ไม่จำกัด
  • การควบคุมดุลการชำระเงินดำเนินการโดยค่าใช้จ่ายในการนำเข้า และส่งออกทองคำ
  • แต่ละสกุลเงินของประเทศมีปริมาณทองคำที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน
  • สกุลเงินประจำชาติมีการแลกเปลี่ยนโดยขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของทองคำ

งานของรัฐ คือ การรักษาอัตราส่วนทองคำต่อสกุลเงินซึ่งจะทำให้จำกัดความสามารถของรัฐในการเข้าแทรกแซงการควบคุมเศรษฐกิจด้วยการจัดพิมพ์ธนบัตร

หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มขึ้น ระบบนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป และมาตรฐานทองคำก็กลายเป็นมาตรฐานสกุลเงินทองคำ ในเวลานั้น สกุลเงินหลายสกุลของประเทศที่พัฒนาแล้วได้รับการยอมรับว่าเป็นสกุลเงินโลก ระบบนี้เรียกว่าระบบสถาบันของมาตรฐานการแลกเปลี่ยนทองคำ และได้รับการอนุมัติในการประชุมเจนัวในปี พ.ศ. 2465

แต่แล้วในปี พ.ศ. 1944 ระบบนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นระบบ Bretton Woods เศรษฐกิจของประเทศในยุโรปได้รับผลกระทบอย่างมากจากสงครามโลกครั้งที่สอง และในปี พ.ศ. 1944 ระบบนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้ แล้ว เงินดอลลาร์สหรัฐก็ได้กลายเป็นสกุลเงินของโลก ดอลลาร์สหรัฐมีอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ถาวรสำหรับทองคำ ดอลลาร์มีมูลค่าทรอยออนซ์ นั่นคือหนึ่งดอลลาร์มีค่ามากกว่าทองคำ 30 กรัมเล็กน้อย

ยิ่งกว่านั้นผู้คนไม่มีโอกาสแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่งได้ ในการซื้อเงินฟรังก์โดยมีเพียงแค่เงินปอนด์นั้นจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนจากเงินปอนด์ไปเป็นเงินดอลลาร์ และเปลี่ยนจากเงินดอลลาร์ไปเป็นเงินฟรังก์ ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าหากไม่มีเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำการซื้อขายสกุลเงิน

อีกทั้งก่อนหน้านี้สามารถแลกเปลี่ยนจากเงินไปเป็นทอง และเปลี่ยนจากทองไปเป็นเงินได้ นี่เป็นสาเหตุของการสิ้นสุดการใช้ระบบนี้ เนื่องจากรัฐไม่สามารถรองรับอัตราส่วนทองคำต่อสกุลเงินดังกล่าวได้ และผู้ที่ทำลายระบบนี้ได้กลายเป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศสที่มีนามว่า - ชาร์ล เดอ โกล (Charles de Gaulle)

"ธนาคารแห่งชาติของฝรั่งเศสมีทองคำสำรองอยู่ครึ่งพันล้านดอลลาร์ซึ่งตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้นคือทองคำ 16,500 ตัน หรือ 3 ใน 4 ของทองคำสำรองทั้งหมดของสหรัฐฯ เห็นได้ชัดว่าธนาคารกลางสหรัฐไม่สามารถดำเนินการนี้ได้ นั่นหมายความว่ากฎของระบบนี้ถูกทำลายในปี พ.ศ. 2508 และในช่วงทศวรรษที่ 70 ของศตวรรษที่ 20 ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นได้ยกเลิกมาตรฐานสกุลเงินทองคำ"

บทสรุป

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลาดก็ได้เปลี่ยนไปหลายต่อหลายครั้ง ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การปรากฏตัวขึ้นของอินเทอร์เน็ตที่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ คอมพิวเตอร์ส่วนตัว และโบรกเกอร์ให้บริการทางออนไลน์ เป็นต้น การปฏิรูปตลาดฟอเร็กซ์ได้เริ่มขึ้นในตอนนั้น และในตอนนั้นเองที่ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเริ่มส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินเนื่องจากสกุลเงินของประเทศที่ได้รับการพัฒนาแล้วในปัจจุบันมีอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว และถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่ยุคของมาตรฐานทองคำ และระบบ Bretton Woods แต่เงินดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก