ดัชนี DE40 หรือที่รู้จักในชื่อ DAX 40 เป็นดัชนีหุ้นเยอรมันที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทเยอรมันที่ใหญ่ที่สุด 40 แห่งที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต ดัชนี DAX ได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของเศรษฐกิจเยอรมัน และภาพรวมของตลาดหุ้นยุโรป
ดัชนี DAX คำนวณโดยใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดแบบอิสระ หมายความว่าบริษัทที่รวมอยู่ในดัชนีจะได้รับการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดรวมของหุ้นโดยอิสระ โดยบริษัทขนาดใหญ่จะมีผลกระทบต่อดัชนีมากกว่า
ราคาของ DAX ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งเหมือนกันกับดัชนีหุ้นอื่น ๆ นี่คือตัวอย่างของปัจจัยที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลต่อราคาของดัชนี DAX:
1. ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ
- GDP: การเติบโตหรือการหดตัวทางเศรษฐกิจในเยอรมนี รวมถึงในประเทศเศรษฐกิจหลัก ๆ ทั่วโลก อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และราคา DAX
- ข้อมูลการจ้างงาน: อัตราการว่างงาน และตัวเลขการสร้างงานสามารถบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด
- การใช้จ่ายของผู้บริโภค: ระดับการใช้จ่ายของผู้บริโภคสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวม การใช้จ่ายที่สูงสามารถบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ DAX
- ดัชนีการผลิต และบริการ: ดัชนีเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานภาพของภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจ
2. อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการเงิน
การตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และนโยบายการเงินอาจส่งผลกระทบต่อ DAX ที่เห็นได้ชัดเจน การลดอัตราดอกเบี้ยสามารถกระตุ้นให้มีการกู้ยืม และการลงทุนซึ่งส่งผลดีต่อราคาหุ้น
3. กำไรของบริษัท
การตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และนโยบายการเงินอาจส่งผลกระทบต่อ DAX ที่เห็นได้ชัดเจน การลดอัตราดอกเบี้ยสามารถกระตุ้นให้มีการกู้ยืม และการลงทุนซึ่งส่งผลดีต่อราคาหุ้น
4. กำไรของบริษัท
- ผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทที่จดทะเบียนใน DAX มีอิทธิพลโดยตรงต่อดัชนี รายงานผลประกอบการที่เป็นบวกมักส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น
- เหตุการณ์ทั่วโลก
5. เหตุการณ์ทั่วโลก
- ความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของสกุลเงินยูโร: จุดแข็ง หรือจุดอ่อนของเงินยูโรเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ สามารถมีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทข้ามชาติของเยอรมัน และผลที่ตามมาคือดัชนี DAX
6. ความเชื่อมั่นของตลาด
- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเชิงบวก หรือเชิงลบสามารถผลักดันกิจกรรมการซื้อ หรือการขายซึ่งส่งผลกระทบต่อราคา DAX
- การเก็งกำไรในตลาด: การซื้อขายเก็งกำไร และการเคลื่อนไหวของตลาดระยะสั้นอาจส่งผลต่อดัชนีทุกวัน
7. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์
เศรษฐกิจของเยอรมนีก็เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาพลังงาน ความผันผวนของราคาน้ำมัน และก๊าซอาจส่งผลกระทบต่อ DAX โดยเฉพาะสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในภาคส่วนพลังงาน
8. การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ และนโยบายของรัฐบาล
- การจัดเก็บภาษี และกฎระเบียบ: การเปลี่ยนแปลงนโยบาย และกฎระเบียบด้านภาษีอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท และตามมาด้วยราคาหุ้น.
- เสถียรภาพของรัฐบาล: เสถียรภาพทางการเมือง และความต่อเนื่องของนโยบายมีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
9. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
- เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด: ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย โรคระบาด และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอื่น ๆ อาจทำให้เกิดความผันผวนของตลาดอย่างเห็นได้ชัดเจน
10. ปัจจัยทางเทคโนโลยี
- การซื้อขายด้วยความถี่สูง: อัลกอริทึม และการซื้อขายด้วยความถี่สูงอาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างรวดเร็ว และมีขนาดใหญ่
ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนของบริษัทที่รวมอยู่ในดัชนี DE40 (DAX 40):
- Adidas AG
- Allianz SE
- BASF SE
- Bayer AG
- BMW AG
- Continental AG
- Daimler AG
- Deutsche Bank AG
- Deutsche Lufthansa AG
- Deutsche Post AG
- Deutsche Telekom AG
- E.ON SE
- Fresenius Medical Care AG & Co. KGaA
- Fresenius SE & Co. KGaA
- HeidelbergCement AG
- Henkel AG & Co. KGaA
- Infineon Technologies AG
- Linde plc
- Merck KGaA
- Munich Reinsurance Company
- RWE AG
- SAP SE
- Siemens AG
- Thyssenkrupp AG
- Volkswagen AG
โปรดทราบว่าองค์ประกอบของดัชนี DE40 อาจเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และปัจจัยอื่น ๆ
เหตุใดดัชนีนี้จึงถือว่าเป็นหนึ่งในดัชนีที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย คำตอบหลักอยู่ที่ความผันผวน และความสามารถทางเทคนิคของตราสาร DAX เป็นหนึ่งในตราสารที่มีความผันผวนมากที่สุดในโลก สาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้ DAX เกิดความผันผวน คือสภาพคล่องในตราสารนี้ต่ำกว่าดัชนีอเมริกา เช่น S&P 500 (US500), Dow Jones (US30) หรือ Nasdaq (US100) มาก ให้ความสนใจกับสภาพคล่องภายในแท่งเทียน (จำนวนสัญญาในระดับราคาที่เจาะจง)
DAX (DE40)
ES (S&P 500, US500)
ยิ่งสภาพคล่องต่ำ ความผันผวนก็จะยิ่งสูงขึ้น และเกิดขึ้นในทางตรงกันข้าม และยิ่งความผันผวนสูงเท่าไร โอกาสในการทำเงินก็จะยิ่งมีบ่อยมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณควรคำนึงถึงความเสี่ยงอยู่เสมอ เนื่องจากความผันผวนเป็นทั้งโอกาสในการกำไรอย่างรวดเร็ว และการขาดทุนอย่างรวดเร็ว