Iในบทความนี้ เราจะเรียนรู้วิธีดำเนินการหากคุณพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ขาดทุนโดยเฉลี่ยเมื่อใด และวิธีไหนดีที่สุดในการเฉลี่ยตำแหน่งของเทรนด์
ค่าเฉลี่ยตำแหน่งที่สูญเสียเป็นหนึ่งในหัวข้อที่มีการพูดคุยกันมากที่สุดในโลกของการลงทุน และการซื้อขาย วิธีนี้ซึ่งประกอบด้วยการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมเมื่อราคาลดลง (หรือขายเมื่อราคาเพิ่มขึ้น) ดึงดูดทั้งผู้เริ่มต้น และผู้เข้าร่วมตลาดที่มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่สำคัญซึ่งต้องใช้แนวทางที่มีข้อมูลครบถ้วน มาทำความเข้าใจว่าต้องทำอย่างไรหากคุณอยู่ในตำแหน่งที่สูญเสียโดยเฉลี่ย และจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าวให้ดีขึ้นได้อย่างไร
1. ประเมินเหตุผลพื้นฐาน
พื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่? การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางอาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ และอาจมีเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์อื่น ๆ ตรวจสอบปัญหาสำคัญ เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย หรือการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ หากปัญหาเกิดขึ้นชั่วคราว อาจคุ้มค่าที่จะรอให้ตลาดฟื้นตัว การเฉลี่ยจะทำให้เกิดความผิดพลาดหากสถานการณ์เป็นแบบที่มีโครงสร้าง
2. กำหนดขีดจำกัดความเสี่ยงของคุณ
ยอมรับการสูญเสียหากจำเป็น การปิดตำแหน่งที่สูญเสียเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่มากขึ้นมักจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคายังคงเคลื่อนที่สวนทางกับนักเทรดอย่างต่อเนื่อง ใช้จุดหยุดขาดทุนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันการสูญเสียจำนวนมาก
3. ประเมินพอร์ตโฟลิโออีกครั้ง
ตรวจสอบเพื่อดูว่าตำแหน่งที่สูญเสียไปรบกวนการกระจายพอร์ตการลงทุนหรือไม่ หากถือตำแหน่งเอาไว้มากเกินไปอาจทำให้ความมั่นคงโดยรวมของเงินลงทุนลดลงได้
4. คำนวณโอกาสของทางเลือก
เปรียบเทียบเทรนด์ของสินทรัพย์ที่มีการเฉลี่ยกับการลงทุนอื่น ๆ อาจเป็นการดีกว่าที่จะล็อคการสูญเสีย และจัดสรรเงินทุนให้กับสินทรัพย์ที่มีเทรนด์ดีกว่า
5. จัดทำแผนทางออก
กำหนดราคาเป้าหมายเพื่อออกจากตำแหน่ง หากราคาของสินทรัพย์ฟื้นตัว สิ่งสำคัญคือต้องตัดสินใจล่วงหน้าในระดับใดที่คุณจะล็อกกำไร หรือออกจากตำแหน่งได้โดยไม่ขาดทุน
จะสามารถหาค่าเฉลี่ยได้เมื่อไหร่?
การหาค่าเฉลี่ยอาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับบางสถานการณ์:
- ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ขั้นพื้นฐาน คุณได้ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียด และเชื่อว่าการลดลง หรือการเพิ่มขึ้นของราคาเป็นการเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
- ถือไว้ในระยะยาว หากคุณยินดีที่จะถือสินทรัพย์เป็นเวลานาน คุณมีโอกาสที่ดีกว่าจะรอการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมค่าสวอปเพิ่มสำหรับแต่ละคืนที่คุณถือครองตำแหน่งเอาไว้
- วิธีการควบคุม คุณมีขีดจำกัดที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับจำนวนเงินที่คุณยินดีลงทุนในการเฉลี่ย
ทำไมการเฉลี่ยไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดจึงดีกว่าการเฉลี่ยสวนทางกับตลาด?
การหาค่าเฉลี่ยสวนทางกับตลาดมักทำโดยหวังว่าจะมีการกลับตัวของราคา ซึ่งจะเพิ่มความสูญเสียหากราคายังคงลดลงต่อไป ในทางตรงกันข้าม การหาค่าเฉลี่ยไปในทิศทางเดียวกับตลาดจะทำให้คุณสามารถติดตาม “กระแส” ของเทรนด์ได้ เช่น ด้านข้างของการเคลื่อนไหวที่รุนแรงซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด
ข้อดีของการหาค่าเฉลี่ยไปในทิศทางเดียวกับตลาด:
- การสนับสนุนเทรนด์: คุณซื้อขายในทิศทางเดียวกันกับเทรนด์ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ
- การควบคุมความเสี่ยง: การเพิ่มตำแหน่งอาจต้องใช้กำไรเพิ่มจากการเข้าตลาดก่อนหน้าได้
- ศักยภาพในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น: เมื่อเทรนด์ยังคงดำเนินต่อไป ผลกำไรก็จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
ฉันควรใช้ค่าเฉลี่ยกับการเคลื่อนไหวของตลาดเมื่อใด?
หากต้องการใช้ค่าเฉลี่ยอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎสำคัญบางข้อดังต่อไปนี้:
1. ควบคุมความเสี่ยง
ใช้ความเสี่ยงคงที่ต่อตำแหน่งที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงรวมสำหรับทุกตำแหน่งไม่ควรเกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่น 1-2% ของเงินฝาก)
2. ราคาทะลุระดับแนวรับ หรือแนวต้านหลัก ๆ
การหาค่าเฉลี่ยจะมีประโยชน์มากเมื่อราคาทะลุระดับแนวรับ หรือแนวต้านหลัก ๆ ตัวอย่างเช่น หากราคาทะลุระดับแนวต้านหลัก ๆ สิ่งนี้มักจะบ่งบอกถึงความต่อเนื่องของเทรนด์
3. การเผยแพร่ข่าวสาร
ข่าวเศรษฐกิจ หรือภูมิรัฐศาสตร์ที่แข็งแกร่งสามารถเป็นตัวเร่งให้เกิดเทรนด์ที่ทรงพลังได้ หากข่าวที่เผยแพร่นั้นสามารถยืนยันทิศทางของคุณได้ คุณก็สามารถเพิ่มตำแหน่งได้
4. การเผยแพร่ข่าวสาร
รูปแบบทางเทคนิค เช่น ธง ธงสามเหลี่ยม หรือรูปลิ่ม สามารถส่งสัญญาณให้เห็นว่าเทรนด์มีความต่อเนื่อง เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว อาจทำการหาค่าเฉลี่ยได้
วิธีที่ถูกต้องในการหาค่าเฉลี่ยไปในทิศทางการเดียวกันกับตลาด
หากต้องการใช้ค่าเฉลี่ยอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎสำคัญบางข้อดังต่อไปนี้:
1. ควบคุมความเสี่ยง
ใช้ความเสี่ยงคงที่ต่อตำแหน่งที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงรวมสำหรับทุกตำแหน่งไม่ควรเกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่น 1-2% ของเงินฝาก)
2. เพิ่มตำแหน่งหลังจากที่ได้รับการยืนยันเทรนด์แล้วเท่านั้น
อย่ารีบเร่งที่จะหาค่าเฉลี่ยตำแหน่ง รอการยืนยันเทรนด์ผ่านการเคลื่อนไหวของราคา หรือตัวชี้วัด สิ่งนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงการหาค่าเฉลี่ยในระหว่างที่ราคาทะลุออกจากแนวรับ/ต้านที่ไม่สำเร็จ
3. เพิ่มตำแหน่งของคุณทีละน้อย ๆ
เพิ่มปริมาณเล็กน้อยให้กับตำแหน่งที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากการเข้าสู่ตำแหน่งแรกของคุณคือ 1 ล็อต ตำแหน่งถัดไปของคุณอาจเป็น 0.5 ล็อต การค่อย ๆ เพิ่มในปริมาณน้อย ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
4. ย้ายจุดหยุดขาดทุน
ใช้กลยุทธ์ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรเอาไว้ ตัวอย่างเช่น หลังจากเปิดตำแหน่งที่สอง ให้ย้ายจุดหยุดขาดทุนของตำแหน่งแรกไปที่ระดับจุดคุ้มทุน หรือสูงกว่า
5. ตั้งเป้าหมายที่สมจริง
กำหนดระดับการทำกำไรที่ชัดเจนโดยพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคา หรือระดับแนวต้านก่อนหน้านี้ อย่าหลงไปกับการเปิดตำแหน่งมากเกินไป
ตัวอย่างการใช้ค่าเฉลี่ยการเติบโต
สมมติว่าคู่ EUR/USD มีการซื้อขายในเทรนด์ขาขึ้น คุณเปิดตำแหน่งซื้อครั้งแรกที่ 1.1000 โดยมี 0.5 ล็อต ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 1.1050 และคุณสามารถมองเห็นการยืนยันเทรนด์ คุณเพิ่มเข้าไปอีก 0.25 ล็อต ตอนนี้ราคาแตะถึง 1.1100 คุณเพิ่มเข้าไปอีก 0.1 ล็อต โดยหยุดการขาดทุนของตำแหน่งก่อนหน้าทั้งหมดย้ายไปที่ 1.1050 เมื่อราคาแตะถึง 1.1150 คุณจะปิดตำแหน่งทั้งหมด และล็อคกำไรของคุณ
เมื่อไหร่ที่ไม่ควรหาค่าเฉลี่ยไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด?
มีบางสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงการหาค่าเฉลี่ยการเติบโตดังต่อไปนี้:
- เทรนด์ที่อ่อนแอ หรือไม่แน่นอน หากตลาดเคลื่อนตัวไปด้านข้าง การเพิ่มตำแหน่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนเมื่อราคากลับตัว
- ระดับแนวต้านที่แข็งแกร่ง หากเทรนด์เข้าใกล้ระดับสำคัญ ควรรอดูว่าราคาจะทะลุระดับนี้หรือไม่ก่อนจึงจะทำการเพิ่มตำแหน่ง
- ความผันผวนสูง ในตลาดที่มีความผันผวนสูง ราคาอาจพลิกกลับอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความเสี่ยง
บทสรุป
การจัดการกับตำแหน่งที่สูญเสียโดยใช้ค่าเฉลี่ยต้องใช้วินัย การวิเคราะห์ และสามัญสำนึก หากคุณพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นี้ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยการใช้อารมณ์ และประเมินเทรนด์ที่เป็นจริงสำหรับสินทรัพย์นั้น บางครั้งการยอมรับความสูญเสีย และเดินหน้าต่อไปจะดีกว่าการขาดทุนลึกลงไปอีกโดยหวังว่าจะมีการกลับตัวของตลาด การหาค่าเฉลี่ยเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับคุณแต่ต้องใช้อย่างถูกต้องเท่านั้น
การหาค่าเฉลี่ยของเทรนด์เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ที่มีประสบการณ์ซึ่งรู้วิธีจัดการความเสี่ย งและเข้าใจพฤติกรรมของตลาด สิ่งสำคัญคือการติดตามกระแสโดยไม่ลืมเรื่องวินัย และการวางแผนด้วยความชำนาญ เมื่อใช้วิธีการหาค่าเฉลี่ยของเทรนด์ คุณจะสามารถเพิ่มผลกำไรได้มาก แต่โปรดจำไว้เสมอว่ากุญแจสู่ความสำเร็จคือการควบคุมความเสี่ยง และการปฏิบัติตามแผนการอย่างเข้มงวด
